tag:blogger.com,1999:blog-50527581078592539792024-02-20T06:17:22.680-08:00รวมสูตรวิธีทำอาหารไทย เมนูอาหารไทย รายการอาหารไทยวิธีทำอาหารไทยง่ายๆ อาหารจานเดียว อาหารตามสั่งเมนูอาหารไทย เพื่อสุขภาพ รายการอาหารไทย วิธีของหวานไทย ขนมหวานไทย ภาษาอังกฤษ เมนูแกงจืด เมนูยำ เมนูต้มแซ่บ อาหารอีสาน อาหารเหนือ อาหาร 4 ภาคUnknownnoreply@blogger.comBlogger102125tag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-45480853219273241612021-01-22T20:32:00.005-08:002021-01-22T20:32:56.248-08:00ลักษณะของไข่ชนิดต่างๆ<p>รวมไข่ลักษณะต่างๆ ความแตกต่างของไข่แต่ละประเภทต่างกันอย่างไรทั้งไข่ไก่และไข่เป็ด และไข่นกกระทาเราสามารถใช้ทำเมนูอะไรได้บ้าง</p><p style="text-align: left;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhRXOOgshja9fBsetkg4WLmQIDq0cTWbRktheu4Nrtk7pYt9ScbpczhHF6bI4NsLozwBCLnDC4GzQwnoIcwmsk1VaD_c9JZrwR4e3I755aUyqrC9Ec8o6N4xLYycYy1hSkqVVJYw7KIw84/s300/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="168" data-original-width="300" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhRXOOgshja9fBsetkg4WLmQIDq0cTWbRktheu4Nrtk7pYt9ScbpczhHF6bI4NsLozwBCLnDC4GzQwnoIcwmsk1VaD_c9JZrwR4e3I755aUyqrC9Ec8o6N4xLYycYy1hSkqVVJYw7KIw84/s0/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588.jpg" /></a><br /></p><h1 style="text-align: left;">ลักษณะความแตกต่างของไข่ชนิดต่างๆ</h1><p style="text-align: left;"></p><p><br />ไข่ไก่ มีสีเหลืองนวล เหมาะสำหรับทำอาหารได้หลายประเภท ทั้งเมนูอาหารคาวและอาหารหวาน และเป็นที่นิยมในการนำมาประกอบอาหารอีกด้วย<br /><br />ไข่เป็ด จะมีลักษณะสีขาว ไข่แดงของไข่เป็ดจะมีสีแดงเข้มกว่าไข่ไก่ สำหรับไข่เป็ดแล้วสามารถนำไปประกอบทั้งเมนูอาหารคาวและหวานได้ ส่วนใหญ่คนไทยมักนิยมเอาไข่เป็ดไปประกอบเมนูอาหารหวาน ขนมหวานไทยเพราะจะได้ความข้นของเนื้อไข่เป็ดมากกว่าไข่ไก่<br /><br />ไข่เค็ม คือการนำไข่เป็ดไปหมักกับน้ำเกลือโดยใช้เวลาในการหมักประมาณ 15-20 วัน ไข่เค็มนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ ไข่เค็มแบบสุกแล้ว คือ ไข่เค็มที่ผ่านการหมักและต้มสุกแล้ว สามารถนำมารับประทานได้ทันที อีกประเภทหนึ่งไข่เค็มดิบ เป็นไข่เค็มที่ยังไม่ผ่านการต้ม สามารถนำมาทำไข่ดาวได้<br /><br />ไข่เยี่ยวม้าเป็นไข่ทำจากไข่เป็ด โดยการนำไข่ไปหมักในส่วนผสมที่ประกอบด้วยน้ำชาจีน โซเดียมคาร์บอเนต ขี้เถ้า แกลบ ปูนขาว เกลือป่น โดยใช้เวลาในการหมัก ประมาณ 15 วัน จึงนำมาปรุงเมนูอาหารได้<br /><br />ไข่นกกระทา มีลักษณะเป็นสีขาวเหลือง มีลวดลายสีดำผสมอยู่ ขนาดไข่นกกระทาจะมีขนาดเล็กกว่า ไข่ชนิดอื่นๆ นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่นกัน รสชาติจะมีความมันของตัวไข่<br /><br /></p><br />Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-19513110908500242532017-04-04T19:53:00.000-07:002017-04-04T19:53:02.312-07:00สูตรน้ำพริก เมนูน้ำพริก สูตรทำน้ำพริกง่ายๆ<a href="https://www.thaifoodcookbook.net/thaifoodrecipes_th/thaifood-chilli-sauce/index.html" target="_blank">น้ําพริก</a>เป็นเมนุอาหารไทยชนิดเครื่องจิ้มชนิดหน่ึง ส่วนใหญ่ใช่รับประทํานคู่กบัผักที่มีส่วนประกอบ
สํา คัญคือ พริกสด กระเทียม หัวหอม ผักบางชนิดที่ต้องใส่ลงไป ที่ต้องตําให้ละเอียด มีอยู่หลายอย่างเรียกตามส่วนประกอบที่ที่ต้องใส่ลงไป<br />
<br />
<a href="https://www.thaifoodcookbook.net/thaifoodrecipes_th/thaifood-chilli-sauce/index.html" target="_blank">สูตรน้ำพริก</a>แต่ละสูตรก็จะแตกต่างกันไปตามภาคท้องถิ่นที่อยู่และรสชาติของอาหารที่รับประทานด้วย หรืออาหารหลักนั้นเองUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-55393563315681185792017-02-18T22:08:00.001-08:002017-02-18T22:09:09.424-08:00รวมเมนูอาหารอีสาน รวมสูตรอาหารอีสานยอดฮิต<p dir="ltr">รวมอาหารอีสานยอดฮิต รวมวิธีทำอาหารอีสานยอดนิยม รวมสูตรอาหารอีสาน ที่คุณพลาดไม่ได้ จากอาหารอีสานที่มีหลากหลายเมนูให้คุณได้ลองตามทำง่ายๆ</p>
<p dir="ltr">http://www.thaifoodcookbook.net/thaifoodrecipes_th/thaifood_isan_food/index.html</p>
Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-70352015937688179472017-02-14T22:49:00.005-08:002017-02-14T22:49:48.850-08:00เมนูส้มตำปูเค็ม<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ส้มตำปูเค็ม</a> เป็นเมนูส้มตำที่ได้รับความนิยมอีกเมนูหนึ่งรสชาติของปูเค็มที่ใส่ลงไปเพิ่มรสชาติให้ชวนรับประทานมากยิ่งขึ้น สำหรับส้มตำปูเค็มมีวิธีทำดังนี้ >>วิธีทำส้มตำปูเค็ม
#thaifood #thaimenu #thaifoodrecipes #thaispicysalad
http://thaifoodcookbook.net/t…/thaifood_isan_food/index.htmlUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-49467638349483328792015-10-19T19:31:00.000-07:002015-10-19T19:31:00.695-07:00The importance of choosing foods to children.The importance of choosing foods to children.
What you should take into consideration. Select the type of food that is age-appropriate. Children should eat foods that are easily digestible fine.
Because in the early stages of childhood. Baby still has no teeth for the food thoroughly deflating housing on their own, so much needed to be done very carefully.
A little while later At age 8-9 months baby to baby food should be fine to coarse nature of the food because more kids are starting to have teeth chewing it.
The nature of the diet should rough up So that children can use teeth to chew food thoroughly and use dental practice.<br />
<br />
ref, <a href="http://www.babyfoodcookbook.net/" target="_blank">more baby food menu</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-28534979389028100342015-10-17T08:26:00.002-07:002015-10-17T08:26:23.510-07:00ขนมหวานไทย กระท้อนลอยแก้ว กระท้อนลอยแก้วถือเป็น<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">อาหารไทย</a>ชนิดหนึ่งที่อยู่มาคู่คนไทยช้านานและได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหน้าร้อนไปดูวิธีทำกันเลย<br />
<br />
ส่วนผสมกระท้อนลอยแก้ว<br />
กระท้อนปุยฝ้าย 3 ลูก (เลือกที่แก่จัด เพราะจะได้เนื้อที่หวานและปุยนุ่ม)
น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำร้อน 1 ถ้วย
น้ำสะอาดหรือน้ำลอยดอกมะลิ 1/2 ถ้วย
เมื่อเตรียมส่วนผสมกันพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาโชว์ฝีมือปลายจวักกัน เริ่มจากชงน้ำร้อนกับเกลือ คนจนเกลือละลายแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง และทิ้งไว้ให้เย็น หันมาปอกเปลือกกระท้อนออกให้เกือบถึงปุย ใช้มีดแซะเนื้อระหว่างเมล็ดออกและหั่นกระท้อนออกเป็นชิ้นๆ แล้วนำลงแช่ในน้ำเกลือที่ทำรอไว้แล้ว
ทีนี้ก็มาทำน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำตาลกับน้ำสะอาด (หรือน้ำลอยดอกมะลิ จะช่วยให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิ)เข้าด้วยกัน และยกตั้งไฟคนให้น้ำตาลละลาย แล้วกรองเอาผงออก จากนั้นก็ล้างภาชนะที่ทำให้สะอาด แล้วเทน้ำเชื่อมใส่ลงไปเคี่ยวต่ออีกที จนได้น้ำเชื่อมที่ข้นกำลังดีก็เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วช้อนกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือทิ้งให้สะเด็ดน้ำ และใส่ลงในชามน้ำเชื่อม ใส่เกลือลงไปในน้ำเชื่อมเล็กน้อยคนให้เข้ากัน ให้พอมีรสหวานเค็มนิดๆ ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ได้ “กระท้อนลอยแก้ว” ที่พอเวลาจะกินก็แค่ใส่น้ำแข็งลงไป
Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-78061237716301276862015-10-03T20:35:00.002-07:002015-10-03T20:35:35.551-07:00เมนูกระเพราไก่ไข่ดาวส่วนผสมใช้ทำ
1.เนื้อไก่ชิ้น 1 1/2 ถ้วย ใบกะเพรา 1/3ถ้วย พริกชี้ฟ้า 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมปอกเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. สับพริกชี้ฟ้ากับกระเทียมเข้าด้วยกัน 2. ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน 3. ใส่พริกกระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมทั้งหมดสุกนิ่มสักหน่อย4. เติมเนื้อไก่คลุกไปมาจนไก่สุก 5. เติมน้ำปลา น้ำตาล น้ำมันหอยและผัดต่ออีกสักครู่ เพื่อให้เครื่องปรุงรสเข้ากันดีกับเนื้อไก่ 6. เติมใบกะเพราแล้วคลุกอีกครั้งให้ทั่ว จัดตักเสิร์ฟใส่จาน <a href="http://thaifoodcookbook.net/" target="_blank">เมนูอาหารไทยอื่นๆ</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-72048927850034106432015-10-02T17:55:00.002-07:002015-10-02T17:55:38.887-07:00The choice of pork to match the type of foodThe choice of pork to match the type of <a href="http://thaifoodcookbook.net/" target="_blank">food</a>. The pig seems to be not quite pork because pork each section. When are featured as well. This makes it suitable for cooking types are not the same. Pork or pork. Pork is the most soft. If you are cooking, baking or tire type. We recommend using this example, roasted pork and pork should be in the making. Pork is the meat soft and medium. It is a big chunk For dishes that need to be large pieces of sliced pork. The pork belly meat with beef, pork, alternating layers is used to make soup with chopped ingredients that make the buns are soft and have good taste or fry the pieces of pork. Pork loin It is the ideal meat to fried or fried. A moderately softUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-89219822523817987402014-08-19T05:55:00.001-07:002014-08-19T05:55:13.385-07:00น้ำพริกแกงเผ็ด <b><i>เครื่องปรุงพริกแกงเผ็ด</i></b><br />
พริกแห้ง 20 เม็ด หัวหอม 6 หัว กระเทียม 20 กลีบ ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ ข่าซอย 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 2 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา ลูกผักชี 2 ช้อนชา ยีหรา 1 ช้อนชา รากผักชีซอย 3 ช้อนชา<br />
<b><i>วิธีทำ</i></b> พริกแห้งผ่าแกะเม็ดออกทิ้งส่วนเนื้อแช่น้ำให้นิ่ม<br />
หัวหอม<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">กระเทียม</a>ปอกเปลือกออกซอยหยาบๆ ลูกผักชี ยี่หร่า คั่วให้หอม<br />
บีบพริกขึ้นจากน้ำให้แห้งใส่ครก โขลกรวมกับเกลือป่น ให้ละเอียดก่อน<br />
ใส่ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด รากผักชี ลูกผักชี ยี่หร่า โขลกต่อให้ละเอียด อีกครั้ง และตามด้วย หัวหอม กระเทียม กะปิโจลกให้ละเอียดและเข้ากัน<br />
<div>
<br /></div>
Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-24380236333497283292014-03-02T18:33:00.004-08:002014-03-02T18:33:50.194-08:00ข้าวกล้อง<i>ข้าวกล้อง </i>นั้นในสมัยก่อนเรียกว่า ข้าวซ้อมมื้อ หรือข้าวแดง ในสมัยก่อนชาวบ้านใช้วิธีตำข้าวกินกันเอง ซึ่งมักใช้ครกกระเดื่องตำจึงเรียกว่<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">าข้าวซ้อมมื้อ</a> ปัจจุบันนี้จะไม่มีให้เห็นโดยทั่วไปแล้ว จะมีก็ ในหมู่บ้านที่ห่างไกลตัวเมืองอย่างบนพื้นที่สูง เราจะพบชาวเขานำมาขายข้างทาง ซึ่งถ้าซื้อมา บริโภคจะมีประโยชน์มาก ในสมัยก่อนนั้นเราจะเห็นพวกชาวเขาและพวกชาวบ้านจะมีสุขภาพ พลานามัยดี หน้าตาไม่ซีดเซียว ไม่ขาดสารอาหาร แต่ในปัจจุบัน พบว่า ในบางพื้นที่มีการ ขาดสารอาหารUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-6376375236332072932014-02-08T03:44:00.002-08:002014-02-08T03:44:56.859-08:00สูตรอาหารไทยผัดกะเพราไก่สูตรอาหารไทย<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank"><b>ผัดกะเพราไก่</b> </a>เครื่องปรุง + ส่วนผสม ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว * เนื้อไก่ 450 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีำคำ) * กระเทียม 5 กลีบ (สับให้ละเอียด) * หัวหอมใหญ่ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบางๆ) * น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ * ซิอิ๊วดำ 2 ช้อนชา * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง * พริก 7 เม็ด (ทุบพอแหลกและสับหยาบๆ) * พริกไทยป่น หมายเหตุ : สามารถใส่ผักอื่นๆลงไปผัดร่วมด้วยเช่น แครอท, ถั่วฝัก, ข้าวโพดอ่อน เป็นต้น ใบกะเพรา ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว วิธีทำทีละขั้นตอน 1. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นใส่กระเทียมและผัด 5-10 วินาที ใส่หอมใหญ่ และผัดต่อไปอีกสักพักจนกลิ่นเริ่มหอม ใส่เนื้อไก่ลงต่อและผัดจนเนื้อไก่สุกทั่ว 2. ใส่พริกและซิอิ๊วดำลงไปในกระทะ ผัดต่อไปอีก 15-20 วินาที 3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ปิดไฟจากนั้นผัดให้กะเพราผสมกับเนื้อไก่่่จนทั่ว ตักใส่จาน ก่อนเสิรฟโรยหน้าด้วยพริกไทย เสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ในบางครั้งไข่เจียวหรือไข่ดาวมักจะเสิรฟร่วมด้วย<br />
<i><a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">more thai food menu</a></i>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-87280518891160851002014-01-29T18:06:00.003-08:002014-01-29T18:06:32.261-08:00แกงป่าหมู <b><a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ส่วนผสมแกงป่าหมู </a></b>1.เนื้อหมูหั่นบาง 120 กรัม 2.น้ำเปล่า 1 ถ้วย 3.น้ำมันพืช 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 4.กระเทียม 2 กลีบ 5.หอม 2 กลีบ 6.พริกแห้ง 2 เม็ด 7.พริกขี้หนูสด 3 เม็ด 8.ตระไคร้หั่นแว่น 1/2 ต้น 9.ข่าหั่นฝอย 1/2 ช้อนชา 11.กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ 12.ขิง 1 ช้อนโต๊ะ 13.ใบมะกรูด 1-2 ใบ 14.ใบโหระพา 5 ใบ 15.มะเขือยาวหั่น 20 กรัม 16.ถั่วฝักยาวหั่น 20 กรัม 17.น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ 18.รสดี รสหมู 1 ช้อนโต๊ะ 18.รสดี รสหมู 1 ช้อนโต๊ะ วิธีการ 1.นำมะกรูด พริกแห้ง พริกขี้หนูสด ตะไคร้ ข่า กระเทียม เกลือและกะปิ โขลกเข้าด้วยกัน 2.ตั้งกะทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชและเครื่องเทศที่โขลก เอาไว้ลงมาเจียวจนได้กลิ่นหอม หลังจากนั้นใส่น้ำซุปต้มจนเข้ากัน 3.ใส่หมู มะเขือยาว ถั่วฝักยาวและใบมะกรูดลงไป 4.ใส่รสดี รสหมูลงไป เบาไฟ และโรยด้วยใบโหระพา ตักใส่จาน พร้อมเสริฟUnknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-62212063705257491022014-01-12T20:09:00.005-08:002014-01-12T20:09:45.799-08:00ทอดมันกุ้ง1.<b><a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">เนื้อกุ้งสับ</a></b> 1 ถ้วย
2.มันหมูแข็ง 2 ช้อนโต๊ะ
3.รสดี รสไก่ 1 ช้อนโต๊ะ
4.ไข่แดง 1 ฟอง
5.แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำมันงา 1 ช้อนชา
7.เกล็ดขนมปังคลุกทอด 1 ถ้วย
8.น้ำมันสำหรับทอด
1. นำเนื้อกุ้งสับพร้อมมันหมูแข็ง เคล้ากับ รสดี รสไก่
ไข่แดง <a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">แป้งสาลี</a> และน้ำมันงา นวดให้เข้ากันจนเหนียว
2. นำส่วนผสมจากข้อ 1 มาปั้นเป็นก้อนกลม กดให้แบน
แล้วนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปัง โดยกดให้เกล็ดขนมปังติดกับ
ก้อนเนื้อกุ้งที่ผสมแล้วให้ทั่ว
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนนำชิ้นกุ้งที่ปั้นไว้ลงทอด
จนสุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ<br />
<br />
<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">more thaifood info</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-24678314430963922852013-12-28T02:49:00.001-08:002013-12-28T02:49:28.262-08:00วิธีทำยำปลาหมึก<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ยำปลาหมึกสด</a><br />
ปลาหมึกสด350 กรัม<br />
ขึ้นฉ่ายหั่นสั้นๆ 2 ต้น<br />
แครอทหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ<br />
ผักกาดหอมเด็ดใบ 2 ต้น<br />
หอมใหญ่ซอย1 หัว<br />
พริกขี้หนูบุบ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ<br />
<br />
นำปลาหมึกมาล้างให้สะอ่ด ลอกเมือกดำๆที่ตัวออกให้หมด หั่นเป็นชิ้น เสร็จแล้วนำไปคลุกกับแป้งมัน คลุกให้ทั่วทิ้งไ ว้ห้านาที<br />
<br />Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-7095529422076065542013-12-27T04:16:00.000-08:002013-12-27T04:16:05.912-08:00ยำไข่น้อย<span style="background-color: rgba(255, 255, 255, 0);"><a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ยำไข่น้อย</a><br />ไข่นกกระทา 8-10 ฟอง<br />มะเขือเทศราชินี 10 ลูก<br />หอมใหญ่หั่นเล็ก 1/2 ลูก<br />พริกหวานหั่นเล็ก 1/2 ลูก<br />น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ<br />น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ<br />น้ำตาลทราย<br />พริกขี้หนู 10- 15 เม็ดทุบพอละเอียด<br />ต้นหอม ผักชี หั่นเป็นท่อน 2 ต้น<br /><br />เอาไข่นกกระทาไปต้มจนสุก นำขึ้น แบ่งครึ่งลูกพักไว้<br />นำเครื่องปรุงผสมทั้งหมดมา นำน้ำปลา มะนาว น้ำตางทราย พริกขี้หนู ใส่ในอ่างผสม<br />คนให้น้ำตาลทรายละลาย ชิมรสให้ได้ที่ นำไข่มาใส่ ตามด้วยพริกหวาน มะเขือเทศ คลุกเข้ากันให้ทั่ว นำขึ้นทั้งหมดใส่จาน แต่งดว้ยผักชี และต้นหอม จัดเสิร์ฟ</span>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-32662152409969879762013-10-12T03:04:00.002-07:002013-10-12T03:04:25.417-07:00วิตามินบี2มีความสำคัญต่อร่างกาย ดังนี้<div class="MsoNormal">
<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt; mso-ascii-font-family: "Times New Roman"; mso-hansi-font-family: "Times New Roman";">วิตามินบี</span><span style="font-size: 16.0pt;">2</span></a><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt; mso-ascii-font-family: "Times New Roman"; mso-hansi-font-family: "Times New Roman";">มีความสำคัญต่อร่างกาย ดังนี้</span><span style="font-size: 16.0pt;"><o:p></o:p></span></div>
<span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt; mso-ansi-language: EN-US; mso-ascii-font-family: "Times New Roman"; mso-bidi-language: TH; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"; mso-fareast-language: EN-US; mso-hansi-font-family: "Times New Roman";">
มีความเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญ<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ไขมัน</a>ที่เรียกกันในทางวิทยาศาสตร์ว่า ลิปิด ใช้ในการเผาผลาญกรดอะมิโนทริพโตเฟน
กรดนี้มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก และมีความจำเป็นต่อการเกิดสมดุลของ ไนโตรเจนในร่างกาย
เป็นส่วนประกอบสำคัญของสีที่เรตินาของลูกตา ซึ่งช่วยให้สายตาปรับตัวในแสงสว่าง
อาการที่เกิดจากการขาดวิตามินบี</span><span style="font-family: "Times New Roman","serif"; font-size: 12.0pt; mso-ansi-language: EN-US; mso-bidi-font-family: "Angsana New"; mso-bidi-language: TH; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"; mso-fareast-language: EN-US;">2</span><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 12.0pt; mso-ansi-language: EN-US; mso-ascii-font-family: "Times New Roman"; mso-bidi-language: TH; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"; mso-fareast-language: EN-US; mso-hansi-font-family: "Times New Roman";"> </span><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New","serif"; font-size: 16.0pt; mso-ansi-language: EN-US; mso-ascii-font-family: "Times New Roman"; mso-bidi-language: TH; mso-fareast-font-family: "Times New Roman"; mso-fareast-language: EN-US; mso-hansi-font-family: "Times New Roman";">คือ
เหนื่อยง่าย เบื่อ<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">อาหาร</a> มีอาการทางประสาทการย่อย<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">อาหาร</a>ไม่ปกติ ถ้าเป็นมากๆปาก และลิ้นอาจแตก</span>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-15692030776987210182013-09-23T19:03:00.004-07:002013-09-23T19:05:53.841-07:00วิธีทำให้ข้าวต้มหอมวิธีำทำให้<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ข้าวต้มหอม</a>น่า<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">รับประทาน</a>
ถ้าคุณอยากให้ข้าวต้นหอมชวน<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">รับประทาน</a>ง่ายๆ แค่เรานำใบเตย ล้างสะอาดหลายๆ น้ำหน่อย ย่อนลงไปสัก 3-4ใบ ในขณะที่เราต้มข้าวอยู่นั้นเอง พอหุงข้าวเสร็จให้นำใบเตยขึ้นเป็นอันหอมชวนรับประทาน<br />
<br />
<b><a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">เมนูอาหารไทย</a></b>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-75210064574377705352013-03-07T03:29:00.003-08:002013-03-07T03:29:54.028-08:00เคล็ดลับการทอดปลา ไม่ให้เละ<b>เคล็ดลับการทอดปลาไม่ให้เละ ในขณะที่ทอดและ ตักขึ้นมีดังนี้</b><br />
<br />
<ul>
<li>ให้คุณนำปลาด้านที่มีหนังลงไปก่อน เพราะส่วนนี้จะสุกช้ากว่าด้านที่ไม่มีหนัง </li>
<li>ใช้ตะหลิวหรือไม่พายกดลงไปที่ปลา เพื่อให้ปลาไม่งอตัวขึ้นมา</li>
<li> อย่าพลิกไปมาโดยไม่จำเป็น ควรรอให้สุกเป็นด้าน </li>
<li>เมื่อด้านหนังปลาสุกดีแล้ว จึงค่อยกลับอีกด้าน<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ของปลา</a>ทอดจนเหลืองทอง</li>
</ul>
<div>
<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">เคล็ดลับอาหารไทยชนิดอื่นๆ</a></div>
Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-70422450868417993312013-02-21T02:33:00.000-08:002013-02-21T02:33:01.978-08:00วิธีทำข้าวต้มหมู<strong>ส่วนผสมวิธีทำข้าวต้มหมู</strong><br />
<ol>
<li> ข้าวสารผสมข้าวเหนียวสักกำมือ ประมาณ 2 ถ้วย<br />
</li>
<li> โครงไก่ล้างสะอาด สับเป็นท่อน 2 ท่อน<br />
</li>
<li> หมูสับ หรือไก่สับ 2 ขีด<br />
</li>
<li> <a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">ขิงแก่ทุบ</a> 2 แง่ง<br />
</li>
<li> ตั้งฉ่าย <br />
</li>
<li> ต้นหอม ผักชี ตั้งโอ๋ ชอบแบบไหนก็ใส่แบบนั้น<br />
</li>
<li> กระเทียบเจียว<br />
</li>
<li> ซีอิ้วขาว<br />
</li>
<li> เกลือสักปลายช้อน<br />
</li>
<li> พริกไทป่นสำหรับโรย (พริกไทดำป่นหอมกว่าพริกไทขาว)</li>
</ol>
<em><a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank"><strong>วิธีทำข้าวต้มหมู</strong></a></em><br />
<ol>
<li>ต้มข้าวให้พอเริ่มสุขใส่โครงไก่<br />
</li>
<li>และเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ เคียวข้าวไปสักพักข้าวสุก<br />
แต่ยังไม่ต้องให<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/" target="_blank">้เม็ดข้าวบาน</a>มาก (ยกลงเดียวบานเอง) <br />
</li>
<li>ใส่ขิงแก่ทุบ ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิวขาว ตั้งฉ่าย รอเดือด<br />
อีกครั้ง ยกลง<br />
</li>
<li>เวลารับประทาน ตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกไท <br />
ใส่กระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี หรือตั้งโอ <br />
เป็นอันเสร็จ </li>
</ol>
Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-38897346205860542482013-02-18T05:22:00.003-08:002013-02-18T05:22:22.329-08:00วิธีทำข้าวต้มกุ้ง<h3>
<u><b>เมนูข้าวต้มกุ้ง
</b></u></h3>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://thaifoodcookbook.net/thaifoodrecipes_th/thaifoodalacarte/images/thaifood_koong_boiledrice.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="135" src="http://thaifoodcookbook.net/thaifoodrecipes_th/thaifoodalacarte/images/thaifood_koong_boiledrice.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
<a href="http://www.thaifoodcookbook.net/">เมนูอาหารไทยอื่นๆ</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-80426349852223134872013-02-18T01:48:00.000-08:002013-02-18T01:48:07.568-08:00ทำลาบหมู<b>วิธีทำลาบหมู</b>
<b>ส่วนผสม</b>
<br />
<ul>
<li>หมูสับ 350 กรัม</li>
<li>ใบสาระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>ผักชีหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>น้ำตาล 0.5 ช้อนชา</li>
<li>หอมแดงหั่นหยาบ 0.5 ถ้วยตวง</li>
<li>น้ำซุปไก่ 1 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)</li>
<li>กะหล่ำปลี 0.5 ลูก (หั่นเป็นเสี้ยว)</li>
<li>ถั่วฝักยาว 5 ต้น (หั่นเฉียง)</li>
</ul>
<b><a href="http://thaifoodcookbook.net/" target="_blank">วิธีทำลาบหมู</a></b>
<br />
<ol>
<li>ต้มน้ำในหม้อเล็ก ใส่หมูสับและต้มต่อไปอีก 2 นาที ระหว่างต้มใช้ทัพพีเขี่ยให้หมูแยกออกจากกัน เมื่อหมูสุกดีแล้วจึงปิดไฟ และเทน้ำออก</li>
<li> นำหมูที่สุกแล้วไปใส่ในชามขนาดกลาง เติมหอมแดง, ต้นหอม, ผักชี และใบสาระแหน่ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว, น้ำปลา, ข้าวคั่ว, พริกป่นและน้ำตาล คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน</li>
<li> ตักใส่จาน แต่งข้างจานด้วยผักสด (กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว) โรยหน้าด้วยใบสาระแหน่ เสริฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ</li>
</ol>
<a href="http://thaifoodcookbook.net/">เมนูอาหารอื่นๆ</a>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-25780755917074002532013-01-24T18:16:00.000-08:002013-01-24T18:16:58.222-08:00วิธีทำบัวลอยไข่หวาน เมนูบัวลอยไข่หวาน สูตรทำขนมหวานไทย<h1>
วิธีทำเมนูบัวลอยไข่หวาน สูตรขั้นตอนการทำเมนูบัวลอยไข่หวาน ขนมหวานไทย ของหวาน</h1>
<a href="http://thaifoodcookbooks.blogspot.com" title="วิธีำทำบัวลอยไข่หวาน"imageanchor="1" style=""><img border="0" height="142" width="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWnXI9QwT0fXZUcZFHdr-pHoZfC9IektcffBy32CrvpoJKsF507EGelNRDUV4Ego0cx1XCQ6T2mLgn8B_EWrbGYvUe_AzHx8GdrRByBfWQzoRFi2ViDopZxjW54l8gOtMTXrwxjJTpGNs/s320/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599_thaifoodcookbooks.jpg" alt="วิธีำทำบัวลอยไข่หวาน"/></a>
<h2>
เครื่องปรุงส่วนผสมที่ใช้ทำ<strong>เมนูบัวลอยไข่หวาน</strong></h2>
<ol><li>แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย</li>
<li>แป้งข้าวเหนียว</li>
<li> มะพร้าว 1/2 กิโลกรัม</li>
<li>ไข่ไก่ 4 ฟอง</li>
<li>น้ำดอกไม้สด 4 ถ้วย</li>
<li>น้ำตาลปี๊บ 3-4 ขีด</li>
</ol>
<h2>
ขั้นตอนวิธีทำ<strong>เมนูบัวลอยไข่หวาน</strong></h2>
<ol>
<li>นำแป้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียวมาผสมผสานกัน นวดกับน้ำอุ่นๆนวดไปเรื่อยๆให้แป้งนุ่ม</li>
<li>ใช้น้ำดอกไม้สดคั้นมะพร้าวใส่ชามไว้ไม่ต้องแยกหัวกะทิ</li>
<li>ตั้งกระทะใส่น้ำกระทิลงไปเคี่ยวจนเดือด จากนั้นจึงหยิบแป้งปั้นเป็นเม็ดๆใส่ลงไปในกระทะให้หมด</li>
<li>เคี่ยวไปเรื่อยๆ กะดูเม็ดบัวลอยเริ่มสุกดี แล้วค่อยตอกไข่ใส่ถ้วยตีไข่ไก่ลงในกระทะด้วยคนๆ กวนๆ ให้เข้ากันดี </li>
<li>เคี่ยวไปเรื่อยๆ พอสุกดีแล้วก็ยกลงตัก<strong>บัวลอยไข่หวาน</strong>ใส่ถ้วยรับประทานได้</li>
</ol>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-51764620464750681002013-01-24T17:59:00.004-08:002013-01-24T17:59:57.828-08:00วิธีทำมันเทศต้มน้ำตาล ขนมหวานมันเทศต้มน้ำตาล<h1>
มันเทศต้มน้ำตาล</h1>
<a href="http://thaifoodcookbooks.blogspot.com/" imageanchor="1" title="ขนมหวานมันเทศต้มน้ำตาล"><img alt="ขนมหวานมันเทศต้มน้ำตาล" border="0" height="142" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEisaRe1lhwARQAXANE2u7RO-D4LaKeiXe2vGsh7Jwpp4xkHWLia4tbAGHM-1XpqUC6wDXTUpK2hcSXh5la_rgvUf8ZODO-lLPbg9mQLJR3pjrsSiCypPyk8nKN6MZDq2j8mOvUX3ZIhncQ/s320/%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A5.jpg" width="320" /></a>
<br />
<h2>
ส่วนผสมเครื่องปรุงมันเทศต้มน้ำตาล</h2>
<ol>
<li><b>มันเทศ </b>1/2 กิโลกรัม</li>
<li><b>น้ำตาล</b> 1/2กิโลกรัม</li>
<li>ขิงอ่อน 5 แว่น</li>
<li>น้ำเปล่า 7 ถ้วย</li>
</ol>
<h2>
ขั้นตอนการทำมันเทศต้มน้ำตาล</h2>
<ol>
<li>นำน้ำใส่หม้อประมาณ7ถ้วยตั้งไฟรอให้เดือด</li>
<li>พอน้ำเดือดได้ที่ใส่<b>น้ำตาล</b>เคี่ยวให้ละลาย</li>
<li>จากนั้น ใส่<b>มันเทศ</b>และตามด้วยน้ำขิงอ่อนเคี่ยวให้สุกเสร็จแล้วรับประทานได้</li>
</ol>
Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-66454482561246498612013-01-23T22:55:00.002-08:002013-01-23T22:59:03.210-08:00วิธีทำเมนูปลานิลทอดน้ำปลา สูตรเมนูปลานิลทอดน้ำปลา อาหารทอด<h1>
วิธีทำเมนูปลานิลทอดน้ำปลา สูตรเมนูปลานิลทอดน้ำปลา อาหารผัดทอด</h1>
<a href="http://thaifoodcookbooks.blogspot.com" title="วิธีทำเมนูปลานิลทอดน้ำปลา"imageanchor="1" style=""><img border="0" height="142" width="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj-E2DywmUdSvyEpO5o9tHSI0LDDBuPUHZvcxF1HRdcqdxNT3mBdaSAWfspddLOdMFdan-arOwAWSRGa5i36FaKhyKFslSWtFNkbvYYRwxQKBxBAUMY3HztqZ0xfm6YQ_Hn_mj0ji-Fvgw/s320/%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2_thaifoodcookbooks.jpg" alt="วิธีทำเมนูปลานิลทอดน้ำปลา" /></a>
<h2>
เครื่องปรุงส่วนผสมที่ใช้ทำ<strong>เมนูปลานิลทอดน้ำปลา</strong></h2><ol>
<li><strong>ปลานิล</strong> 1 ตัว ล้างสะอาดขอดเกล็ดล้างไส้ พุงปลาให้เรียบร้อย</li>
<li>น้ำปลาดี 2-3 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>เกลือป่น 2-3 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>น้ำมันพืช</li>
<li>แตงกวาหั่นบาง</li>
<li>ผักชี</li>
</ol>
<h2>
ขั้นตอนวิธีทำ<strong>เมนูปลานิลทอดน้ำปลา</strong></h2>
<ol>
<li>บั้งตัว<strong>ปลานิล</strong>ที่เตรียมไว้ทั้งสองด้าน เอาเกลือทาบนตัวปลานิลบาง ๆ ให้ทั่วทั้งสองด้านแล้วทิ้งให้ตัวปลาแห้ง</li>
<li>เทน้ำมันพืชใส่(กะให้ท่วมตัวปลาตอนใส่ปลาลงไป) กระทะตั้งไฟให้ร้อน หลังจากที่น้ำมันร้อนได้ที่แล้ว นำ<strong>ปลา</strong>ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป</li>
<li>ค่อยๆหรี่ไฟลงใช้ไฟแบบปานกลาง รอจนปลาเหลืองด้านละประมาณ 3-5 นาที หากตอนจะกลับด้านปลา แต่ยังไม่สุกหนังปลาติดอยู่ต้องรอจนกว่าหนังปลาจะกรอบแห้ง แล้วค่อยกลับด้าน</li>
<li>รอจนปลากรอบสุกทั้งสองด้าน แล้วให้ตักน้ำมันที่ใช้ทอดออกเหลือติดกระทะไว้บ้างเล็กน้อยแล้ว ใส่น้ำปลาที่เตรียมไว้ใส่ลงไปผลัดคลุกกับตัวปลากลับไปกลับมาให้ทั่ว ใช้ไฟปานกลาง</li>
<li>นำปลาขึ้น วางพักไว้ในตะแกรงรอให้สะเด็ดน้ำมัน</li>
<li> นำเสริฟพร้อมกับแตงกวา โรยหน้าด้วยผักชี</li>
<li>ตัก<strong>ปลานิลทอดน้ำปลา</strong>ใส่จาน</li>
</ol>Unknownnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-5052758107859253979.post-32080412159086696862013-01-23T22:46:00.002-08:002013-01-23T22:47:05.229-08:00วิธีทำกุ้งชุบแป้งทอด สูตรเมนูกุ้งชุบแป้งทอด อาหารผัดทอด<h1>
วิธีทำเมนูกุ้งชุบแป้งทอด สูตรเมนูกุ้งชุบแป้งทอด อาหารผัดทอด</h1>
<a href="thaifoodcookbooks.blogspot.com" title="วิธีทำเมนูกุ้งชุบแป้งทอด" imageanchor="1" style=""><img border="0" height="142" width="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi83eImDP5hxffb5tJ7ybhaRnahXPJD9XEcaY3Wim6tj_cw1V2B_Q4bScLojifO8r1Bxl04WosVGqvrj3q_eXZgWInG9k-qGcB3-GfRs_cLjEs3D9Csa8WsPekOHWIhDjDJG4YxTfNbeus/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594_thaifoodcookbooks.jpg" alt="วิธีทำเมนูกุ้งชุบแป้งทอด"/></a>
<h2>
เครื่องปรุงส่วนผสมที่ใช้ทำ<strong>เมนูกุ้งชุบแป้งทอด</strong></h2><ol>
<li><strong>กุ้ง</strong> 10-15 ตัว</li>
<li><strong>แป้งโกกิ </strong>5 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>เกล็ดขนมปัง 5 ช้อนโต๊ะ</li>
<li>น้ำมันพืช</li>
<li> ผักชี</li>
<li>แตงกวาหั่นบาง 1-2 ลูก</li>
</ol>
<h2>
ขั้นตอนวิธีทำ<strong>เมนูกุ้งชุบแป้งทอด</strong></h2>
<ol>
<li>ปอกเปลือก<strong>กุ้ง</strong>ล้างให้สะอาด</li>
<li>นำ<strong>แป้งโกกิ</strong>ที่เตรียมไว้มาผสมน้ำ ใส่น้ำไม่มาจนเกินไป คนให้เข้ากัน</li>
<li>นำกุ้งที่เตรียมไว้ ลงไปชุบแป้ง และนำมาคลุกกับเกล็ดขนมปังอีกครั้ง</li>
<li>นำน้ำมันเทลงกระทะ ตั้งไฟร้อนปานกลาง</li>
<li> ใส่<strong>กุ้ง</strong>ที่ได้ไปลงกระทะ ทอดให้เหลืองกรอบ ดูจนสุกทั่ว นำขึ้น</li>
<li>จัดเสิร์ฟ พร้อมโรยหน้าด้วย ผักชี และแตงกวา</li>
<li>ตัก<strong>กุ้งชุบแป้งทอด</strong>ใส่จาน</li>
</ol>Unknownnoreply@blogger.com